ThaiTU7112

วันอังคารที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

คำราชาศัพท์




















สรุปเนื้อหา

คำราชาศัพท์
ราชาศัพท์ เป็นระเบียบการใช้คำพูดของไทยให้สุภาพตามชั้นของบุคคลซึ่งแบ่งเป็นห้าชั้น ได้แก่
1) พระราชา 2) เจ้านาย หรือพระราชวงศ์ 3) พระสงฆ์ของศาสนาพุทธ 4) ข้าราชการ และ 5) สุภาพชนทั่วไป

ราชาศัพท์สำหรับพระมหากษัตริย์
1. คำนามที่เป็นชื่อสิ่งของสำคัญที่ควรยกย่อง มีคำเติมหน้า ได้แก่ พระบรมมหาราชพระบรมมหา พระบรมราช พระบรม พระอัคราช พระอัคร และพระมหา เช่น พระบรมมหาราชวัง พระบรมราชชนนี พระบรมราชวงศ์ พระบรมอัฐิ พระบรมโอรสาธิราช พระอัครชายา พระมหาปราสาท เป็นต้น
2. คำนามเป็นชื่อสิ่งสำคัญรองลงมา นำหน้าด้วยคำ“พระราช” เช่น พระราชวังพระราชวงศ์ พระราชทรัพย์ เป็นต้น
3. คำนามเป็นชื่อของสิ่งสามัญทั่วไปที่ไม่ถือว่าสำคัญส่วนใหญ่เป็นคำบาลีสันสกฤต เขมร และคำไทยเก่า แต่บางคำก็เป็นคำไทยธรรมดานำหน้าด้วยคำ “พระ” เช่น พระกร พระบาท พระโรค พระเคราะห์ เป็นต้น คำนามใดที่เป็นคำประสม มีคำ “พระ” ประกอบอยู่แล้ว ห้ามใช้คำ “พระ” นำหน้าซ้อนอีก เช่น พานพระศรี (พานหมาก) ขันพระสาคร (ขันน้ำ) เป็นต้น
4. คำนามที่เป็นชื่อสิ่งไม่สำคัญและคำนั้นมักเป็นคำไทย นำหน้าด้วยคำว่า “ต้น” เช่น ม้าต้น ช้างต้น เรือนต้น และนำหน้าด้วย “หลวง” เช่น ลูกหลวง หลานหลวง รถหลวง เรือหลวง ส่วน “หลวง” ที่แปลว่าใหญ่ ไม่จัดว่าเป็นราชาศัพท์ เช่นภรรยาหลวง เขาหลวง ทะเลหลวง เป็นต้น นอกจากคำว่า “ต้น” และ “หลวง” ประกอบท้ายคำแล้ว บางคำยังประกอบคำอื่นๆ อีก เช่น รถพระที่นั่ง เรือพระที่นั่ง รถทรง ม้าทรง ช้างทรง น้ำสรง ห้องสรง ของเสวย เป็นต้น
ศัพท์สำหรับเจ้านายหรือพระบรมวงศานุวงศ์ คือตั้งแต่สมเด็จพระบรมราชินีลงไปถึงหม่อมเจ้า
• ใช้พระราชนำหน้า เช่น พระราชเสาวนีย์ พระราชประวัติ พระราชดำรัส พระราโชวาท เป็นต้น
• ใช้พระนำหน้า เช่น พระเศียร พระองค์ พระหัตถ์ พระทัย พระบาท เว้นแต่หม่อมเจ้าไม่ใช้ “พระ” นำหน้า ใช้ว่า เศียร องค์ หัตถ์ หทัย บาท เป็นต้น
• คำนามราชาศัพท์สำหรับเจ้านายอยู่ในตัว ไม่ต้องใช้คำนำหน้าหรือคำต่อท้าย เช่น วัง ตำหนัก ดังที่กล่าวมาแล้วข้างต้น





คำราชาศัพท์ที่ควรทราบ
คำราชาศัพท์ที่ใช้เป็นคำนาม
คำสามัญ คำราชาศัพท์
หัว(พระมหากษัตริย์) พระเจ้า
ผม(พระมหากษัตริย์) เส้นพระเจ้า
หน้าผาก พระนลาฎ
ขนระหว่างคิว พระอุณาโลม
จมูก พระนาสา,พระนาสิก
ปาก พระโอษฐ์
ลิ้น พระชิวหา
หู พระกรรณ
ดวงตา พระพักตร์
บ่า,ไหล่ พระอังสา
ปลายแขน พระกร
นิ้วมือ พระองคุลี
ห้อง พระอุทร
ขา,ตัก พระเพลา
เท้า พระบาท
ปอด พระปัปผาสะ
หัว พระเศียร
ผม พระเกศา,พระเกศ,พระศก
คิ้ว พระขนง,พระภมู
ดวงตา พระจักษุ,พระนัยนา,พระเนตร
แก้ม พระปราง
ฟัน พระทนต์
คาง พระหนุ
คอ พระศอ
หนวด พระมัสสุ
ต้นแขน พระพาหา,พระพาหุ
มือ พระหัตถ์
เล็บ พระนขา
เอว พระกฤษฎี,บั้นพระเอว
แข้ง พระชงฆ์
ขน พระโลมา
กระดูก พระอัฐิ



หมวดขัตติยตระกูล
คำสามัญ คำราชาศัพท์
ปู่,ตา พระอัยกา
ลุง,อา(พี่-น้องชาย ของพ่อ) พระปิตุลา
พ่อ พระชนก,พระบิดา
พี่ชาย พระเชษฐา,พระเชษฐภาตา
หลาน พระนัดดา
ลูกเขย พระชามาดา
ย่า,ยาย พระอัยยิกา,พระอัยกี
ป้า,อา(พี่-น้องสาวของ พ่อ) พระมาตุจฉา
แม่ พระชนนี,พระมารดา
น้องสาว พระราชธิดา,พระธิดา
แหลน พระปนัดดา
ลูกสะใภ้ พระสุณิสา



หมวดเครื่องใช้
คำสามัญ คำราชาศัพท์
ยา พระโอสถ
กระจก พระฉาย
ตุ้มหู พระกุณฑล
ประตู พระทวาร
ฟูก พระบรรจถรณ์
ผ้าห่มนอน ผ้าคลุมบรรทม
น้ำ พระสุธารส
ช้อน พระหัตถ์ ช้อน
แว่นตา ฉลองพระเนตร
น้ำหอม พระสุคนธ์
แหวน พระธำมรงค์
หน้าต่าง พระบัญชร
เตียงนอน พระแท่นบรรทม
ผ้านุ่ง พระภูษาทรง
เหล้า น้ำจัณฑ์
ข้าว พระกระยาเสวย
หวี พระสาง
หมวก พระมาลา
ร่ม พระกลด
อาวุธ พระแสง
มุ้ง พระวิสูตร
ผ้าเช็ดหน้า ผ้าชับพระพักตร์
ของกิน เครื่อง
หมาก พระศรี




คำราชาศัพท์ที่ใช้เป็นคำสรรพนาม
บุรุษที่ 1
สรรพนาม ผู้พูด ผู้ฟัง
ข้าพระพุทธเจ้า บุคคลทั่วไป พระมหากษัตริย์,เจ้านายชั้นสูง
เกล้ากระหม่อมฉัน บุคคลทั่วไป(หญิง) เจ้านายชั้นรองลงมา
เกล้ากระหม่อม บุคคลทั่วไป(ชาย)
เกล้ากระผม บุคคลทั่วไป

บุรุษที่ 2
สรรพนาม ผู้พูด ผู้ฟัง
ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท เจ้านายหรือบุคคลทั่วไป พระมหากษัตริย์,พระบรมราชินีนาถ
ใต้ฝ่าละอองพระบาท เจ้านายหรือบุคคลทั่วไป พระบรมโอรสาธิราช,พระบรมราชกุมารี
ใต้ฝ่าพระบาท เจ้านายหรือบุคคลทั่วไป เจ้านายชั้นสูง
ฝ่าพระบาท เจ้านายที่เสมอกันเหรือผู้น้อย เจ้านายชั้นหม่อมเจ้าถึงพระเจ้าวรวงศ์เธอ

บุรุษที่ 3
สรรพนาม ผู้พูด ใช้กับ
พระองค์ บุคคลทั่วไป พระมหากษัตริย์,เจ้านายชั้นสูง
ท่าน บุคคลทั่วไป เจ้านาย

คำราชาศัพท์ที่ใช้เป็นคำกริยา
เป็นคำแสดงอาการ แบ่งเป็น 4 ชนิด
• กริยาที่เป็นราชาศัพท์ในตัวเอง เช่น ตรัส(พูด) เสด็จ(ไป) กริ้ว(โกรธ) ประชวร (ป่วย) ประสูติ(เกิด) ใช้ทรงนำหน้ากริยาธรรมดา เช่น ทรงฟัง ทรงยืน ทรงยินดี
• ห้ามใช้ทรงนำหน้ากริยาที่มีนามราชาศัพท์ เช่น มีพระราชดำริ(ห้ามใช้ทรงมีพระราชดำริ) มีพระบรมราชโองการ (ห้ามใช้ทรงมีพระบรมราชโองการ)
• ใช้เสด็จนำหน้ากริยาบางคำ เช่นเสด็จกลับ เสด็จขึ้น เสด็จลง


คำกริยาที่ประสมขึ้นใช้เป็นราชาศัพท์ตามลำดับชั้นบุคคล
กริยา ราชาศัพท์ ชั้นบุคคล
เกิด พระราชสมภพ พระมหากษัตริย์,พระบรมราชินี
ประสูติ เจ้านาย
ตาย สวรรคต พระมหากษัตริย์,พระบรมราชินี
ทิวงคต พระยุพราชหรือเทียบเท่า
สิ้นพระชนม์ พระองค์เจ้าหรือเจ้านายชั้นสู
ถึงชีพิตักษัย,สิ้นชีพิตักษัย หม่อมเจ้า
ถึงแก่อสัญกรรม นายกรัฐมนตรี
ถึงแก่อนิจกรรม รัฐมนตรี


คำขึ้นต้นและคำลงท้ายในการกราบบังคมทูล กราบทูล และทูลด้วยวาจา
ฐานันดรของผู้ฟัง คำขึ้นต้น คำลงท้าย

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว, ขอเดชะฝ่าละอองธุลีพระบาท- ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ
สมเด็จพระบรมราชินีนาถ ปกเกล้าปกกระหม่อม

สมเด็จพระบรมราชินี , ขอพระราชทานกราบบังคมทูล- ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ควรมีควร-
สมเด็จพระบรมราชชนนี , ทราบฝ่าละอองพระบาท แล้วแต่จะทรงพิจารณาโปรดเกล้า-
สมเด็จพระยุพราช , โปรดกระหม่อม
สมเด็จพระสยามบรมราชกุมารี

สมเด็จเจ้าฟ้า ขอพระราชทานกราบทูลทราบ- ควรมีควรแล้วแต่จะทรงพิจารณา-
ฝ่าพระบาท โปรดเกล้าโปรดกระหม่อม

พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้า ขอประทานกราบทูลทราบฝ่าพระบาท ควรมีควรแล้วแต่จะทรงพิจารณา-
โปรดเกล้าโปรดกระหม่อม

พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้า กราบทูลฝ่าพระบาท ควรมีควรแล้วแต่จะโปรด
พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้า

หม่อมเจ้า ทูลฝ่าพระบาททรงทราบ แล้วแต่จะโปรด

การใช้คำราชาศัพท์ในการเพ็ดทูล
หลักเกณฑ์ในการกราบบังคมทูลพระเจ้าแผ่นดิน
1. ถ้าผู้รับคำกราบบังคมทูลไม่ทรงรู้จัก ควรแนะนำตนเองว่า "ขอเดชะฝ่าละอองธุลีพระบาทปกเกล้าปกหระหม่อม ข้าพระพุทธเจ้า ......................ชื่อ.................... ขอพระราชทานพระบรมราชวโรกาสกราบบังคมทูลพระกรุณาทราบฝ่าละอองธุลีพระบาท" และลงท้ายว่า ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ
2. ถ้ากราบบังคมทูลธรรมดา เช่น ทรงมีกระแสพระราชดำรัสถามส่าชื่ออะไร ก็กราบบังคมทูลว่า "ข้าพระพุทธเจ้า ชื่อ ...................พระพุทธเจ้าข้า"
3. ถ้าต้องการกราบบังคมทูลถึงความสะดวกสบาย หรือรอดอันตรายให้ใช้คำว่า "เดชะพระบารมีปกเกล้าปกกระหม่อม......................"
4. ถ้าจะกราบบังคมทูลถึงสิ่งที่ทำผิดพลาดไม่สมควรทำให้ใช้คำนำ "พระราชอาญาไม่พ้นเกล้าพ้นกระหม่อม"
5. ถ้าจะกราบบังคมทูลขอพระราชทานพระมหากรุณาใช้คำว่า "ขอพระบารมีปกเกล้าปกกระหม่อม"
6. ถ้าจะกราบบังคมทูลถึงของหยาบมิบังควร ใช้คำว่า "ไม่ควรจะกราบบังคมพระกรุณา"
7. ถ้าจะกราบบังคมทูลเป็นกลางๆ เพื่อให้ทรงเลือก ให้ลงท้ายว่า "ควรมีควร ประการใดสุดแล้วแต่จะทรงพระกรุณาโปรดเกล้า โปรดกระหม่อม"
8. ถ้าจะกราบบังคมทูลถึงความคิดเห็นของตนเองใช้ว่า "เห็นด้วยเกล้าด้วยกระกม่อม"
9. ถ้ากราบบังคมทูลถึงสิ่งที่ที่ทราบใช้ว่า "ทราบเกล้าทราบกระหม่อม"
10. ถ้าจะกราบบังคมทูลถึงการทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งถวายใช้คำว่า "สนองพระมหากรุณาธิคุณ"
11. ถ้าจะกล่าวขออภัยโทษ ควรกล่าวคำว่า "เดชะพระอาญาไม่พ้นเกล้า" และลงท้ายว่า ด้วยเกล้าด้วยกระกม่อม
12. การกล่าวถึงสิ่งที่ได้รับความอนุเคราะห์ ให้ใช้คำว่า "พระเดชพระคุณเป็นล้นเกล้าล้นกระหม่อม"

สำหรับเจ้านายตั้งแต่หม่อมเจ้าขึ้นไป
1. ในการกราบบังคมทูล ไม่ต้องใช้คำขึ้นต้นและลงท้าย ถ้าเป็นพระยุพราช , พระราชินีแห่งอดีตรัชกาลและสมเด็จเจ้าฟ้า ควรใช้สรรพนามแทนพระองค์ท่านว่า "ใต้ฝ่าละอองพระบาท" ใช้สรรพนามแทนตนเองว่า "ข้าพระพุทธเจ้า" และใช้คำรับว่า "พระพุทธเจ้าข้า"
2. เจ้านายชั้นรองลงมา ใช้สรรพนามแทนพระองค์ว่า "ใต้ฝ่าพระบาท" ใช้สรรพนามแทนตนเองว่า "เกล้ากระหม่อม" ใช้คำรับว่า "พระเจ้าข้า" เจ้านายชั้นสมเด็จพระยาและพระยาพานทอง ใช้สรรพนามของท่านว่า "ใต้เท้ากรุณา" ใช้สรรพนามของตนว่า "เกล้ากระหม่อม" ฝช้คำรับว่า "ขอรับกระผม"
3. คำที่พระภิกษุใช้เพ็ดทูลต่อพระเจ้าแผ่นดิน แทนคำรับว่า "ถวายพระพร" แทนตนเองว่า "อาตมภาพ" ใช้สรรพนามของพระองค์ว่า "มหาบพิตร"

วิธีใช้คำประกอบหน้าคำราชาศัพท์
1. พระบรมราช ใช้ประกอบหน้าคำเพื่อให้เห็นว่าสำคัญยิ่ง ในกรณีที่ต้องการเชิดชูพระราชอำนาจ
2. พระบรม ใช้ประกอบหน้าคำเพื่อให้เห็นว่าสำคัญยิ่ง ในกรณีที่ต้องการเชิดชูพระราชอิสริยยศ
3. พระราช ใช้ประกอบหน้าคำเพื่อให้เห็นว่าสำคัญรองมาจาก พระบรม เพื่อแสดงให้เห็นว่าเป็นสิ่งเฉพาะขององค์พระเจ้าแผ่นดิน

วิธีใช้คำประกอบหลังคำราชาศัพท์
1. ทรง ใช้ประกอบหลังคำนาม เพื่อเป็นคำนามราชาศัพท์
2. ต้น ใช้ประกอบหลังคำนามสำคัญทั่วไป เพื่อทำให้เป็นคำนามราชาศัพท์ มักใช้กับสิ่งที่โปรดเป็นพิเศษ
3. หลวง ใช้ประกอบหลังคำนามสามัญทั่วไป เพื่อให้เป็นนามราชาศัพท์
4. พระที่นั่ง ใช้ประกอบหลังคำนามสามัญ เพื่อให้เป็นนามราชาศัพท์ มีความหมายว่าเป็นที่ประทับส่วนพระองค์




เพิ่มเติมจากดีวีดี
ราชาศัพท์สำหรับพระภิกษุสงฆ์
ไทยเรามีคำพูดที่ใช้กับพระภิกษุโดยเฉพาะอยู่ประเภทหนึ่งบางทีก็เป็นคำที่พระภิกษุเป็นผู้ใช้เอง ซึ่งคนไทยส่วนใหญ่จะรู้จักกันหมดแล้ว เช่น คำว่า อาตมาภาพ หรืออาตมา มีความหมายเท่ากับ ฉัน บางคำก็ทั้งท่านใช้เองและเราใช้กับท่าน เช่น คำว่า ฉัน หมายถึง กิน เป็นต้น การพูดกับพระภิกษุต้องมีสัมมาคารวะ สำรวม ไม่ใช้ถ้อยคำที่เป็นไปในทำนองพูดเล่นหรือพูดพล่อยๆ ซึ่งจะเป็นการขาดความเคารพไปสำหรับพระภิกษุ เราจำเป็นต้องทราบราชทินนาม เรียกว่า พระภิกษุผู้ทรงสมณศักดิ์ ของพระภิกษุเรียงลำดับได้ดังนี้ เพื่อที่จะได้ใช้ได้อย่างถูกต้อง
1. สมเด็จพระสังฆราช
2. สมเด็จพระราชาคณะ หรือ ชั้นสุพรรณปัฎ คือ พระภิกษุที่มีราชทินนามนำหน้าด้วยคำว่า "สมเด็จพระ"
3. พระราชาคณะชั้นรอง
4. พระราชาคณะชั้นธรรม พระราชาคณะชั้นนี้มักมีคำว่า "ธรรม" นำหน้า
5. พระราชาคณะชั้นเทพ พระราชาคณะชั้นนี้มักมีคำว่า "เทพ" นำหน้า
6. พระราชาคณะชั้นราช พระราชาคณะชั้นนี้มักมีคำว่า "ราช" นำหน้า
7. พระราชาคณะชั้นสามัญ
8. พระครูสัญญาบัติ , พระครูชั้นประทวน , พระครูฐานานุกรม
9. พระเปรียญตั้งแต่ 3-9

คำราชาศัพท์ที่ควรทราบ
พระภิกษุที่เป็นพระราชวงศ์ ใช้ราชาศัพท์ตามลำดับชั้นแห่งพระราชวงศ์ สำหรับสมเด็จพระสังฆราชเจ้า(สมเด็จพระสังฆราชที่เป็นพระราชวงศ์) ใช้ดังนี้
คำขึ้นต้น ใช้ว่า ขอประทานกราบทูล (กล่าวพระนามเต็ม)
สรรพนามแทนผู้พูด ใช้ว่า ข้าพระพุทธเจ้า
สรรพนามแทนพระองค์ท่าน ใช้ว่า ใต้ฝ่าพระบาท
คำลงท้าย ใช้ว่า ควรมิควรแล้วแต่จะโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม
สมเด็จพระสังฆราช ซึ่งดำรงตำแหน่งสกลมหาสังฆปริณายก ใช้ราชาศัพท์เสมอพระเจ้าวรวงศ์เธอ (ที่มิได้ทรงกรม) เช่น
คำขึ้นต้น ใช้ว่า กราบทูล (กล่าวพระนามเต็ม)
สรรพนามแทนผู้พูด ใช้ว่า เกล้ากระหม่อม (สำหรับชาย), เกล้ากระหม่อมฉัน(สำหรับหญิง)
สรรพนามแทนพระองค์ท่าน ใช้ว่า ฝ่าพระบาท
คำลงท้าย ใช้ว่า ควรมิควรแล้วแต่จะโปรด

สรรพนามบุรุษที่ 1 ที่พระภิกษุใช้
คำที่ใช้ โอกาสที่ใช้
อาตมา พระภิกษุใช้กับบุคคลธรรมดาที่เป็นผู้ใหญ่หรือมีฐานะตำแหน่งสูงในโอกาสที่ไม่เป็นทางการ
อาตมาภาพ พระภิกษุใช้กับพระราชวงศ์ตั้งแต่หม่อมเจ้าขึ้นไป และใช้ในโอกาสที่เป็นทางการ เช่น การแสดงพระธรรมเทศนา
เกล้ากระผม พระภิกษุใช้กับพระภิกษุที่เป็นอุปัชฌาย์อาจารย์หรือที่ดำรงสมณศักดิ์สูงกว่า
ผม,กระผม พระภิกษุใช้กับพระภิกษุด้วยกันโดยทั่ว ๆ ไป

สรรพนามบุรุษที่ 2 ที่พระภิกษุใช้
คำที่ใช้ โอกาสที่ใช้
มหาบพิตร พระเจ้าแผ่นดิน
บพิตร พระราชวงค์
คุณโยม บิดา, มารดา, ญาติผู้ใหญ่หรือผู้ที่อาวุโสสูง
คุณ,เธอ ใช้กับบุคคลทั่วไป

สรรพนามบุรุษที่ 2 ที่ฆราวาสใช้
คำที่ใช้ โอกาสที่ใช้
พระคุณเจ้า ฆราวาสใช้กับสมเด็จพระราชาคณะ, รองสมเด็จพระราชาคณะ
พระคุณท่าน ฆราวาสใช้กับพระราชาคณะชั้นรองลงมา
ท่าน ใช้กับพระภิกษุทั่วไป



คำขานรับที่พระภิกษุใช้
คำที่ใช้ โอกาสที่ใช้
ขอถวายพระพร พระราชวงค์
เจริญพร ฆราวาสทั่วไป
ครับ,ขอรับ ใช้กับพระภิกษุด้วยกัน
ศัพท์สำหรับพระภิกษุที่พบบ่อย
คำที่ใช้ โอกาสที่ใช้
รูป ลักษณะนามสำหรับพระภิกษุสงฆ์
อาราธนา ขอเชิญ
เจริญพระพุทธมนต์ สวดมนต์
ภัตตาหาร อาหาร
ประเคน ยกของ(ด้วยมือ)ให้พระ
ฉัน กิน
ถวาย มอบให้
เครื่องไทยธรรม ของถวายพระ, ของทำบุญต่าง ๆ
อนุโมทนา ยินดีด้วย
อาสนะ, อาสน์สงฆ์ ที่นั่ง
ธรรมาสน์ ที่แสดงธรรม
เสนาสนะ สถานที่ที่ภิกษุใช้
จำวัด นอน
สรง อาบน้ำ
มรณภาพ ตาย
ปลงผม โกนผม
กุฏิ เรือนพักในวัด
จำพรรษ อยู่ประจำวัด
อุปสมบท บวช (บวชเป็นพระภิกษุ)
บรรพชา บวช (บวชเป็นสามเณร)
ลาสิกขา สึก
คิลานเภสัช ยารักษาโรค
ลิขิต จดหมาย
ครองผ้า แต่งตัว
ถวายอดิเรก กล่าวบทอวยพรพระมหากษัตริย์
บิณฑบาต รับของใส่บาตร
ปลงอาบัติ แจ้งความผิดให้ทราบ
ปัจจัย เงิน
ทำวัตร สวดมนต์
เผดียงสงฆ์ แจ้งให้สงฆ์ทราบ
สุผ้า ซักผ้า, ย้อมผ้า
อาพาธ ป่วย

จากเนื้อหาทั้งหมด มีการเพิ่มเติมจากอินเตอร์เน็ต เนื่องจากเนื้อหาของอาจารย์ลำพูนยังมีขาดบางส่วนเล็กน้อย

แหล่งอ้างอิง :
1. http://www.panyathai.or.th/wiki/index.php/%E0%B8%84%E0%B8%B3%E0%B8%A3%E0
%B8%B2%E0%B8%8A%E0%B8%B2%E0%B8%A8%E0%B8%B1%E0%B8%9E%E0%B8%97%E0%B9%8C
2. http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%84%E0%B8%B3%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0
%B8%8A%E0%B8%B2%E0%B8%A8%E0%B8%B1%E0%B8%9E%E0%B8%97%E0%B9%8C

ผู้ติดตาม

คลังบทความของบล็อก